สิ่งที่คุณไม่ควรใส่ลงไปในข้อมูลส่วนตัวของคุณบน Facebook 
คุณอาจจะเห็นเพื่อนโพสข้อความบนเฟสบุ้คประมาณห้ามไม่ให้เฟสบุ้คนำข้อมูลส่วนตัว รูปภาพ ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติจากคุณก่อน ซึ่งข้อความก็จะเป็นประมาณนี้
ณ วันนี้ 2 กรกฎาคม 2016 เวลา 12.25 น. ข้าพเจ้าไม่อนุญาตให้ Facebook รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องของ Facebook สามารถใช้รูปภาพข้อมูลโพสต์ของข้าพเจ้าทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในอนาคต หรือทั้งหมดที่อยู่ในProfile ของข้าพเจ้า ดังรายละเอียดที่ได้กล่าวมาตามข้อความข้างบนนี้ ข้าพเจ้ามีความประสงค์ต้องการแจ้งให้ ทาง Facebook รับทราบ ว่าไม่มีสิทธิ์ ที่จะนำเอาข้อมูลของข้าพเจ้าไปเปิดเผย, คัดลอก , ทำสำเนา, แจกจ่าย หรือ ดำเนินการใดๆ โดยอ้างอิง จากข้อมูลส่วนตัวของข้าพเจ้า รวมถึงเนื้อหาของโปรไฟล์นี้
ข้อมูลดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นความลับส่วนบุคคล. การละเมิดความเป็นส่วนตัวจะมีบทลงโทษโดยกฎหมาย***หมายเหตุ: Facebook ตอนนี้เป็นบุคคลสาธารณะ สมาชิกของ Facebook ทุกคนต้องโพสต์ข้อความแบบนี้
หากคุณไม่แจ้งข้อความข้างต้นต่อ Facebook อย่างน้อยหนึ่งครั้งใน Facebook ของคุณ คุณจะถูก tacitly อนุญาตให้ใช้รูปภาพของคุณรวมทั้งข้อมูลที่มีอยู่ในอัพเดตสถานะของโพรไฟล์คุณได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
*กรุณาอย่าแชร์* คุณต้องคัดลอกข้อความนี้และนำไปโพสต์ที่หน้า Facebookของคุณ และต้องเปลี่ยนวันที่และเวลา ก่อนที่คุณจะโพสต์
นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ข้อความนี้ถูกโพสครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วและมาระบาดไปทั่วสังคมFacebookอีกเมื่อวันสองวันก่อนนี้ ซึ่งข้อความนี้เป็นแค่เรื่องแชร์ข้อความแบบลูกโซ่เท่านั้น และFacebookก็ได้ออก แถลงการ เกี๋ยวกับเรื่องนี้แล้วว่าไม่ต้องตกใจกลัวเราไม่มีนโยบายนี้
ถ้าคุณไม่อยากให้ facebook เอารูปเอาข้อมูลส่วนตัวคุณไปใช้ก็ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เห็นแค่คุณคนเดียวหรือลบบัญชีของคุณทิ้งถ้ายังกลัวว่าเขาจะเอาไปใช้อยู่อีก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณไม่ควรใส่ลงไปในข้อมูลส่วนตัวของคุณมีดังนี้
- สิ่งที่คุณสนใจ Facebook จะเก็บทุกรายละเอียดสิ่งที่คุณสนใจไว้ใน
ฐานข้อมูลเพื่อจะได้ยัดโฆษณาหน้าฟีดคุณได้ตรงจุด - วัน เดือน ปี เกิด ของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คุณไม่ควรให้ไปอยู่บน Facebook
เพราะเหล่าแฮคเกอร์อาจจะสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ได้ - บ้านเลขที่ คุณไม่ควรโพสว่าบ้านเลขที่คุณว่าตั้งอยู่ครงไหนอาจจะมีผู้ไม่หวังดีจับตามองคุณผ่าน Facebook อยู่ก็ได้
- ที่ทำงานหรือการเดินทางไปโรงเรียนก็ไม่ควรจะโพสไว้ใน facebook
สุดท้ายก็ใช้ facebook อย่างมีสติ
นี่คือการตั้งค่าความปลอดภัยเบื้องต้นที่ white แฮคเกอร์เขาแนะนำมา
